รีวิวประสบการณ์ใช้งานจริง! กับกล้องเกาหลี GNET G-ON ฟังก์ชั่นล้ำจริง น่าใช้หรือป่าว?

สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกท่าน หลายคนกำลังมองหากล้องติดรถดีๆสักตัว เพื่อนๆบางคนอาจจะเคยมีประสบการณ์กับกล้อง หลากหลายมากมายแตกต่างกันไป ส่วนตัวผมเองที่ใช้งานกล้องอยู่หลากหลายรุ่น ผ่านมาแล้วกว่าหลายสิบแบรนด์ เรียกได้ว่ามีรถคันไหนต้องติดทุกคัน ได้มาเจอกับเจ้าตัวกล้องบันทึกของเกาหลี แบรนด์ GNET นี้เองครับ
 
*ยืมรูปมาจาก Carcamstore นะครับ

เท่าที่รู้จักมาแบรนด์เกาหลีในท้องตลาดตอนนี้มีอยู่อย่างมาก 3-4 แบรนด์ด้วยกันครับ ส่วนสำหรับท่านใดที่อยากจะทราบสินค้าทั้งหมดของเขาก็เข้าไปดูที่เว็บไซต์เขาได้เลย www.gnetsystem.com เดียววันนี้ผมจะมาเล่าสู้กันฟังสำหรับเพื่อนๆที่อาจจะกำลังดูรุ่นนี้อยู่ ซึ่งกระทู้นี้จะขอพูดแบบตรงไปตรงมานะครับ
 
สเปคเบื้องต้นของเข้ากล้องตัวนี้ให้มาแบบไม่กักกันเลยทีเดียวครับ ถือว่าครบมากๆครับ

#รายละเอียดสเปคตัวกล้อง
• กล้องหน้า Full HD 1920x1080P (มุมกว้าง 160º)
• กล้องหลัง Full HD 1920x1080P (มุมกว้าง 150º)
• กล้องหน้าบันทึกด้วย 60 FPS ลดอัตราการเบลอ
• HDR ระบบภาพกลางคืนเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด!
• H.265 เทคโนโลยีดาวน์โหลดไฟล์เร็วขึ้น 2 เท่า
• Gsyncloud ระบบดูออนไลน์ 24ชม. ฟรี! ทั่วโลก
• Parking Monitor เฝ้าระวังขณะจอด 24 ชม.
• Motion Detection ขณะจอดกล้องหน้าและหลัง
• LBP ระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อแบตเตอรี่รถใกล้ต่ำ
• Parking Timer เปิด/ปิดและตั้งเวลาขณะจอดได้
• G-Sensor ล็อคไฟล์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
• Wi-Fi ตั้งค่าและดูวิดิโอย้อนหลังผ่านมือถือสะดวก
• ADAS ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน,เข้าใกล้คันหน้า
• Format Free ระบบจัดการไฟล์ที่เสถียรไม่ต้องนั่งลบบ่อยๆ
• Impact Alarm แจ้งเตือนเมื่อมีแรงกระแทกเกิดขึ้นขณะจอด
• Memory Error Alarm แจ้งเตือนเมื่อเมมโมรี่การ์ดเสียหาย
• High Resistant ทนความร้อนสูงถึง 85 องศา
 
เริ่มจากหน้าตาของตัวกล้องก่อนแล้วกันนะครับ 
ตัวกล้องมีขนาดเล็กครับ ไม่เกะกะ ไร้จอแสดงผล วัสดุงานประกอบถือว่ามาตรฐานดีมากครับ
 
ชิ้นเลนส์ต่างๆเป็นแบบแก้วแท้ครับ ตัวกล้องหน้าปรับหมุนเลนส์ได้ตามชอบ
 
และกล้องหลังปรับได้ 360 องศาเลยครับ ดูแข็งแรงดีมากครับ
 
อันนี้ผมติดตั้งเสร็จแล้วเรียบร้อย ให้ช่างเดินสายซ่อนให้ทั้งหมดครับ การยึดติดใช้เป็นกาว 3M ครับ ทดสอบแล้วแน่นยึดติดดีแน่นอนครับ ไม่หลุด เวลาเจอแดดบ่อยๆ หรือ เวลาเกิดอุบัติเหตุครับ ส่วนเมมการ์ดจะถูกครอบด้วยฝาปิดมิดชิดดูดีครับ
 
ตำแหน่งรูในการเสียบสายจัดเรียงมาสวยงาม ทำให้เราเก็บสายทั้งหมดเข้าด้วยกันได้อย่างสวยงามครับ
 


 
เรื่องของขนาดและตำแหน่ง หลังจากติดตั้งเสร็จก็ซ่อนกล้องดีมากๆครับ ไม่เกะกะสายตาเหมือนรุ่นเก่าๆล่ะดีครับ ส่วนเวลากล้องทำงานก็จะมีไฟบอกสถานะการทำงานให้เราทราบตลอดครับ
 
ส่วนตำแหน่งการเดินสายไฟนั้นก็สามารถต่อเข้ากับ Fuse / OBD ได้ครับ ตามสะดวกได้เลย

--------------------------------
 
ส่วนเรื่องของการใช้งานนั้นก็เชื่อมกับอพบนมือถือครับ ซึ่งมีรองรับทั้ง IOS / Andriod พูดถึงเรื่องการใช้งานแอพต้องยอมรับว่าประสบการณ์ใช้งานแอพลื่นไหล และเข้าถึงเมนูต่างๆได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ขั้นตอนน้อยสุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นครับ สำหรับท่านใดมองหากล้องที่ใช้งานสะดวกๆตัวนี้ตอบโจทย์ครับ

 
--------------------------------

พูดถึงฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่มีมาให้สำหรับกล้องรุ่นนี้นะครับ
เริ่มจากตัว "60 Frame Per Seconds" กันก่อนเลยครับ
โดยปกติแล้วกล้องทั่วไปบันทึกวิดิโอด้วย 30FPS หรือการนำภาพ 30 ภาพมาต่อกันใน 1 วิ
เพื่อให้เกิดเป็นวิดิโอขึ้นมาครับ แต่สำหรับ 60FPS คือการบันทึกภาพที่ถี่ขึ้น 2 เท่า หรือ 60 ภาพใน 1 วินั้นเอง ดังรูปตัวอย่างนี้เลยครับ
 
ระโยชน์คือเมื่อเกิดอุบัติเหตุในขณะที่วัตถุนั้นๆมีการเคลื่อนไหว
จะสามารถช่วยลดอัตราการเบลอ หรือกดหยุดวิดิโอแล้วไม่ชัดลงได้ถึง 2 เท่าครับ ดีมากๆเลย

--------------------------------
 
ถัดมาเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตืนเต้นมากๆ และสะเทือนวงการกล้องบันทึกติดรถนั้นคือ เทคโนโลยี "HDR" นั้นเอง! 
หรือที่เราเรียกกันว่า High Dynamic Range ครับ

ระบบนี้เป็นระบบที่ช่วยปรับสมดุลแสงครับ ในพื้นที่ที่สว่างมากไป
หรือ Over Brightness เช่นขณะกลางคืนแสงไฟหน้าที่สูง - ไฟท้ายสูง ตัวกล้องจะปรับสมดุลภาพลดความสว่าง

เพื่อให้ได้รายละเอียดภาพที่ชัดเจนที่สุดครับ
 ตัวอย่างตามภาพด้านล่าง
 
จากที่ทดลองใช้งานระบบนี้ ถือว่าเห็นความแตกต่างจริงๆครับ สีสันของไฟล์ภาพมีความสดใสเสมือนตาเห็น

ในช่วงเย็นๆที่วิ่งย้อนแสง หรือกลางคืน หรือวิ่งเข้าอุโมง การปรับแสงสมดุลทำได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งกล้องในท้องตลาด ปัจจุบัน

มากกว่า 90% ยังคงไม่มีระบบนี้มาให้ แต่คาดว่าหลังจากนี้เราจะเห็นระบบนี้มากับตัวกล้องส่วนมากในปี 2021-2022 นี้แน่นอนครับ

--------------------------------
 
เทคโนโลยีถัดมาที่ผมชื่นชอบมากๆคือ "H.265 Encoding" 
ประโยชน์ของระบบนี้คือ การช่วยลดขนาดไฟล์เล็กลง 2 เท่า! โดยที่คุณภาพไฟล์เท่าเดิม เช่นหากเราใส่เมมการ์ดในกล้องทั่วไป 16GB - เก็บไฟล์ได้นาน 2 ชม. แต่ถ้าใส่กับ GNET G-ON ก็สามารถเก็บได้ถึง 4 ชมเลยทีเดียว
อีกทั้งยังทำให้เราสามารถที่จะดาวน์โหลดไฟล์วิดิโอลงมือถือได้เร็วขึ้น 2 เท่าอีกด้วย! แน่นอนว่า เวลาเกิดเหตุเราคงไม่มีมเวลามานั่งรอ
การโหลดไฟล์เป็นเวลานานหรอกครับ
 
ซึ่งคาดว่าเราก็คงจะเห็นเทคโนโลยีนี้มากับกล้องส่วนมากในปี 2021-2022 นี้ครับ

--------------------------------
 
ระบบภาพแค่นี้ยังไม่พอครับ GNET G-ON ให้ความกว้างเลนส์มาแบบไม่กักเลยครับ โดยปกติแล้วกล้องเกาหลีรุ่นอื่นๆที่เราเห็นส่วนมากก็ 140 เป็นมาตรฐานครับ และ 150 เป็นพิเศษ 

แต่สำหรับรุ่นนี้เขาได้ให้มาถึง 160 องศาในกล้องหน้า และ150 องศาในกล้องหลังครับ 

โดยรวม 310 องศา ซึ่งถือว่ากว้างกว่ากล้องรุ่นอื่นๆในท้องตลาดอย่างแน่นอนครับ รถที่มีขนาดใหญ่
ก็ทำให้เราสามารถเก็บมุมมองภาพได้เป็นอย่างดีเลยครับ
 

--------------------------------

ตัวกล้องยังมีระบบ Motion Detect หรือตรวจจับการเคลื่อนไหว ทั้งกล้องหน้าและหลัง ขณะจอดรถครับ
ซึ่งมั่นใจว่า 99% กล้องจีนคงไม่มีระบบนี้มาให้ครับ เพราะถ้าแบตเตอรี่ไม่ทนจริงจะเสียเร็วมาก
*ขออนุญาตยืมคลิปตัวอย่างจาก CarcamStore ครับ
 
ฟังก์ชั่นนี้ดีอย่างไร? ขณะที่คุณไม่อยู่กับรถ หากมีการเคลื่อนไหวผ่านกล้องหน้าหรือ/หลัง ต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเฉียวชน
ขีดข่วน ขโมยของ เข็นรถของเรา เลื่อนรถ ใดๆต่างๆ ก็จะมีการตรวจจับไว้ให้เรานั้นเองครับ ซึ่งระบบนี้จะอยู่ในเฉพาะกล้องเกาหลี
เท่านั้นครับ เพิ่มความปลอดภัย และเป็น หนึ่งฟังก์ชั่นที่ควรจะต้องมีไว้จริงๆครับ
 
--------------------------------

ตัวกล้องยังมีระบบ รองรับการดูออนไลน์ Gsyncloud สามารถดูภาพ ตำแหน่ง และไฟล์ย้อนหลังบนมือถือได้สะดวกครับ นั้นหมายความว่า
เราอยู่ที่ไหนก็ตามสามารถดูภาพตัวกล้องได้ทันที เรียกดูไฟล์ย้อนหลังได้สะดวกเลยครับ ที่สำคัญสามารถดูภาพขณะจอดได้ด้วยครับ
เมื่อเราจอดรถไว้ตามที่จอดรถก็ลิ้ค์ภาพขึ้นมือถือได้ทันทีครับ

จุดเด่นของ GNET คือการใช้งาน Cloud ที่ตั้งค่าการเชื่อมต่อง่าย สะดวกรวดเร็ว อัตราดีเลย์น้อยมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ และไม่จำกัดเวลา
ในการดูภาพออนไลน์ครับ ใช้งานได้เต็มที่ครับ ใส่ใจ user และให้ความคุ้มค่าดีมากครับ

--------------------------------
 
สำหรับ GNET G-ON ตัวนี้ยังมาพร้อมกับมาตรฐานการผลิตใหม่ ที่ทนความร้อนได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และดีกว่ารุ่นอื่นๆในท้องตลาดด้วยครับ
 
ปกติทั่วไปจะสามารถทนความร้อนได้ 75 องศา อย่างมากที่ 80 องศา แต่สำหรับรุ่นนี้ ทนความร้อนได้ที่ 85 องศากันเลยทีเดียวครับ
แน่นอนว่าอากาศบ้านเรา กล้องที่ทนความร้อนได้สูงกว่าจะเป็นผู้อยู่รอดในระยะยาวนั้นเองครับ ยิ้ม เฉลี่ยอายุการใช้งานสำหรับรุ่นนี้
จากประสบการณ์จากกล้องแบรนด์นี้มา คาดว่าอย่างต่ำนี้ก็ 3-4 ปีขึ้นแน่นอนครับ
 
รุ่นนี้ยังรองรับในส่วนของระบบ ADAS หรือระบบการแจ้งเตือนออกนอกเลน/การชนคันหน้า แจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ออกไปด้วยครับ
ซึ่งสามารถเลือกตั้งค่าความเร็วรถในการเปิดระบบการแจ้งเตือนออกนอกเลนได้อีกด้วยครับ
*รูปออกนอกเลน

--------------------------------
 
สำหรับกล้อง GNET รวมถึงกล้องเกาหลีรุ่นอื่นๆก็จะมีระบบที่เรียกว่า Format Free ครับ หรือระบบการจัดการไฟล์ที่เสถียรภาพสูง
เราไม่จำเป็นต้องคอยมาฟอร์แมตการ์ด หรือดูแลตัวกล้องอยู่บ่อยๆนั้นเองครับ แต่พิเศษกว่าคือมีไฟล์ที่เป็น JDR Format ซึ่งไม่มีในแบรนด์อื่น
เป็นเทคโนโลยีการจัดการไฟล์ มีระบบ Data Recovery อัตโนมัติเมื่อตรวจพบไฟล์ที่สูญหายใตช่วงเวลาไหนก็ตาม เพิ่มความมั่นใจได้เป็นอย่างดีครับ

--------------------------------
 
สำหรับการทำงานของระบบขณะจอด ตามไลฟ์สไตล์การใช้งานรถของเรา บางวันเราอาจจะจอดที่บ้านสะบ่อยกว่า บางวันอาจจะ
จอดนอกบ้านบ่อยกง่า ออกไปเที่ยว ที่ทำงาน อื่นๆ ซึ่งบางทีโหมดขณะจอดถ้าไม่จำเป็นก็ปิดดีกว่า ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานของตัวรถด้วย
 
*Highlight ของรุ่น GNET G-ON ยังสามารถปิดระบบการทำงานขณะจอดได้ผ่านมือถือได้ทันที ซึ่งเป็นกล้องรุ่นเดียว ในแบรนด์เกาหลีด้วยกันที่มีระบบนี้ให้ครับ
 
กล้องรุ่นอื่นๆจะตั้งเวลาการทำงานขณะจอดได้ต่ำสุด 3 ชม นั้นหมายความว่าจะต้องทำงานให้ถึง 3 ชมอย่างต่ำ ถึงจะตัดการทำงานไป 
แต่ GNET G-ON เป็นรุ่นเดียว ณ ตอนนี้ที่เราสามารถเลือกที่ 1 นาทีได้เลยครับ หมายความว่า กล้องก็จะดับตามระบบไฟรถของเราไปเลย สะดวกดีครับ ไม่้องมาคอยกดเปิด/ปิดอยู่บ่อยๆ

--------------------------------
 
สรุป จากประสบการณ์ที่ทดลองใช้งานกล้อง GNET G-ON รุ่นนี้ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหากล้องดีๆสักตัวติดรถ
ปัญหาไม่จุกจิก เสถียรภาพดี ความคมชัดดี ฟังก์ชั่นครบ และเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแน่นอนครับ ก็ขอรีวิวไว้เพียงเท่านี้นะครับ ต้องการถามอะไรก็
ทักเข้ามาหลังไมค์ได้ครับขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ
 
กระทู้นี้อาจจะไม่ได้ Perfect เพิ่งเริ่มหัดเขียนครับ ตำหนิ ติชมได้เลยครับ

ความคิดเห็น